รวมเรื่องต้องรู้ ของการเปลี่ยน “บัตรเอทีเอ็มรูปแบบใหม่”
บัตรเอทีเอ็มนี่นับว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยให้ชีวิตคนเราสะดวกสบายขึ้นอย่างมากจริงๆ ไม่ว่าจะกดเงิน ฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ก็ทำได้ที่บัตรใบเดียวจบ จึงไม่แปลกที่คนไทยเกือบทุกคนมีบัตรเอทีเอ็มของตัวเอง เพียงแต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ตอนนี้บัตรเอทีเอ็มในประเทศไทย มีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน คือ แบบแถบแม่เหล็ก และแบบชิปการ์ด
ซึ่งถ้าใครยังใช้บัตร atm แบบแม่เหล็กอยู่ตอนนี้จะใช้งานไม่ได้แล้ว รัฐบาลกำหนดให้ใช้แบบชิปการ์ดกันหมด โดยวันนี้เราจะพาไปดูข้อมูลเจาะลึกของเรื่องนี้กันว่า ทำไมต้องเปลี่ยน ดียังไง และสังเกตยังไงว่าเราเป็นบัตรใหม่รึยัง
-
ทำไมต้องเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม เป็นชิปการ์ด
ตรงนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกว่าการใช้งานบัตรเอทีเอ็มชิปการ์ดจะเพิ่มความปลอดภัยได้มากกว่าทำบัตรกดเงินสด เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถป้องกันการถูกมิจฉาชีพโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรปลอมได้
-
สังเกตยังไงว่าบัตรเราเก่าหรือใหม่
วิธีดูง่ายๆ ว่าบัตรเราเป็นแบบแถบแม่เหล็ก หรือชิปการ์ด ให้ดูง่ายๆ ที่ด้านหน้าของบัตร ถ้ามีชิปสี่เหลี่ยมเล็กๆ อยู่แสดงว่าเป็นบัตรแบบชิปการ์ดแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนอีก ถือว่าทันสมัยและปลอดภัยที่สุด ณ ปัจจุบัน แต่บัตรใครไม่มีชิปการ์ดสี่เหลี่ยมก็ให้ไปเปลี่ยนทันที
-
อยากเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นแบบใหม่ต้องใช้อะไรบ้าง
เจ้าของบัตรแบบแถบแม่เหล็กต้องเอาบัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็มเดิม และสมุดบัญชีธนาคารไปขอเปลี่ยนที่สาขาของธนาคารที่เราใช้บริการได้เลย ไม่ต้องไปที่สาขาที่ออกบัตรก็ได้
-
ต้องเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นชิปการ์ดตอนไหน
จริงๆ แล้วเค้าออกกฎมานานแล้ว และให้เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มแบบแถบแม่เหล็ก ให้เป็นชิปการ์ด ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 ซึ่งถ้าเลยกว่านั้นบัตรแบบแถบแม่เหล็กจะใช้งานไม่ได้ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ใช้งานไม่ได้แล้วนั่นเอง ดังนั้นใครที่กดเงินจากตู้ไม่ได้ ใช้งานบัตรไม่ได้ก็ไม่ต้องสงสัย แค่ติดต่อที่ธนาคารเพื่อทำการเปลี่ยนบัตรเท่านั้นก็พอ
แต่สุดท้ายแล้วหากคุณยังไม่สะดวกเปลี่ยนบัตร เอทีเอ็ม ให้เป็นแบบชิปการ์ดในปี 2024 หรือ 2567 นี้ก็ยังสามารถเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารแทนได้ ซึ่งก็อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าไหร่แต่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก หรือ ใช้ฟังก์ชั่นกดเงินผ่านแอปธนาคารโดยไม่ใช้บัตรหรือกู้เงินผ่านแอพก็ได้เช่นกัน